นางสาวพรสวรรค์ แป้นปราณีต ชื่อเล่น “เหมย” ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการเทคโนโลยีการผลิตและสารสนเทศ (IpTM) วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) “เหมย” ลุคสาวหน้าหวาน สวยคม ดูโดดเด่นและดึงดูด สะกดทุกสายตาหนุ่มๆ สวยไม่ธรรมดา แถมยังเป็น “ดาวมหาวิทยาลัย” ประจำปี 2561 และทำหน้าที่ผู้อัญเชิญพระมหามงกุฎและฉัตรปริวาร  จากการพูดคุยกันสัมผัสถึงเหมยได้เลยว่าเป็นผู้หญิงยุคใหม่ สายสตรองแน่นอนเพราะจากคำบอกเล่าได้บ่งบอกถึงการมีความพยายาม พากเพียร สู้ยิบตา ทุ่มเทและตั้งใจตามความฝันเพื่อพัฒนาตนเอง มีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง และมีทัศนคติที่มีต่อชีวิตของตัวเอง ปรารถนาที่จะมาเรียนต่อที่ มจพ.  ทุ่มเทอ่านหนังสือ รู้สึกมีแรงกระตุ้นมากๆ จากการขอคำแนะนำจากคนรู้จักเพียงเพื่อจะมาเป็นลูกพระจอม  “เหมย” สอบได้ในครั้ง 2  สมกับเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ใส่ใจทุกรายละเอียด

“เหมย” เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพงษ์สวัสดิ์ ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ เรียนไปได้ 1 ปีแล้ว แต่ลองตัดสินใจมาสอบดู เพราะตอนนั้นครอบครัวก็อยากให้มาเข้าที่ มจพ. ตอนนั้นอ่านหนังสือหนักมาก ในการเตรียมตัวมาสอบเข้า เตรียมวิศวะสาขาที่เลือก คือสาขาโยธา พอเข้าไปเจอข้อสอบทำแทบไม่ได้เลย แต่สุดท้ายก็ไม่ติดค่ะ คงเป็นเพราะเหมยเรียนในสายวิชาชีพเกี่ยวกับด้านคอมพิวเตอร์มา 1 ปีเต็ม ความรู้ในตอนมัธยมคงหายไปบ้าง แต่ช่วงนั้นยอมรับว่าเสียใจที่ไม่ติด แต่ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ   “เหมย” ก็เลยไปเรียนสายวิชาชีพเหมือนเดิม ระหว่างที่เรียนอยู่ ปวช. ตั้งแต่ปี 1-3 ก็เป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมให้สาขาและวิทยาลัยเทคโนโลยีพงษ์สวัสดิ์หลายอย่างมากๆ ทำให้รู้จักรุ่นพี่เยอะ  และได้มีโอกาสเจอรุ่นพี่ที่มาเรียนต่อที่ มจพ.  ซึ่งตอนนั้นคือสงสัยว่าสายอาชีพสามารถเรียนต่อมหาวิทยาลัยเข้าได้หรอ?  มีคณะไหนตรงสายบ้าง?  เพราะหลายๆ ครั้ง “จะได้ยินคนพูดเยอะมากว่าสายอาชีพไปเรียนต่อมหาลัยไม่ได้หรอก ไม่มีสายที่ตรงหรอกถ้าไม่ใช่สายอาชีพที่เกี่ยวกับช่าง”  ด้วยความมุ่งมั่นที่จะต้องเป็นลูกพระจอมให้ได้เหมยหาข้อมูลเพื่อที่จะทำการบ้านเลือกสาขาและคณะให้ตรงตามใจที่เราสอนใจและที่เราถนัด จนกระทั่งมาเจอรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งพี่เขาเรียนคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้ช่วยแนะนำ ชี้แนะแนวทางว่าควรจะเลือกเรียนแบบไหน อีกทั้งพี่เขาก็แนะนำให้ไปลองคุยกับเพื่อนของพี่เขาที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม นับว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยค่ะเพราะได้เข้าไปศึกษาข้อมูลจากคณะนี้แล้ว มีสาขามากมายที่เรารู้จักและไม่รู้จัก  เพราะตอนได้ยินชื่อ “เหมยก็คิดว่าเราจะเรียนยังไง มันคือเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอะไร ซึ่งมันต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีในโรงงานอะไรแบบนี้แน่เลย แล้วเราไม่เคยมีพื้นฐานเลย แล้วสาขาแยกย่อยก็เยอะมาก” แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าควรเรียนสาขาอะไร คำถามขึ้นเต็มหัวมากตอนนั้น และโชคดีที่รุ่นพี่แนะนำให้ลองไปศึกษาดูเกี่ยวกับสาขาการจัดการเทคโนโลยีการผลิตและสารสนเทศ แต่ได้ยินคำว่า”สารสนเทศ” ในตอนนั้นความคิดคือเอา!! เหมยจะเข้าสาขานี้แต่พอมาสอบเข้าก็ไม่ค่อยมั่นใจแต่ตั้งใจไม่ยอมแพ้ แต่รอบนี้มีเวลาอ่านหนังสือน้อยมาก สุดท้ายผลออกมาคือ “เหมย สอบ ติด” ตอนรู้ว่าติดคือดีใจกันทั้งบ้านเลยค่ะ

          พอได้เข้ามาเรียนแล้ว กิจกรรมแรกเลยที่เจอคือ รับน้อง ตอนแรกไม่กล้าเข้าค่ะ กลัว แต่คิดว่าไหนๆ ก็ไหนแล้วปี 1 มีครั้งเดียว รับน้องครั้งเดียวก็เลยเข้าทุกวันเลยค่ะ ก็สนุกบ้าง น่าเบี่อบ้าง และด้วยการเข้ารับน้องทุกวันมังค่ะทำให้รุ่นพี่ในสาขาส่งเหมยไปแข่งดาวคณะ แล้วก็ได้เป็นดาวคณะ เหมยก็เคยฝันนะคะว่าอยากเป็นดาว ไม่คิดว่าจะมาเป็นถึงดาวคณะ  จากตรงนั้นทำให้ได้ก้าวสู่ “ดาวมหาวิทยาลัย” ประจำปี 2561 และทำหน้าที่ผู้อัญเชิญพระมหามงกุฎและฉัตรปริวาร  ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมของคณะและของมหาวิทยาลัยบอกได้เลยว่า มันคือประสบการณ์จริงที่หาในห้องเรียนไม่ได้ การได้รับความช่วยเหลือที่ดีจากคณาจารย์ รุ่นพี่ และเพื่อนๆ รวมถึงตัวเราต้องมีความอดทน ความพยายาม หลังจากได้ตำแหน่งก็เข้าร่วมงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย เช่น เชิญรางวัลในงานต่าง ๆ ของมหาลัย  ถ่ายรูป บันทึกวีดิโอโปรโมทงาน การร่วมงานสานสัมพันธ์ 3 พระจอม (3K)  

          ถ้าถามถึงสิ่งที่เหมยประทับใจก็เป็นการที่ได้เข้ามาเป็น “ลูกพระจอม” ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเหมยในรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือแห่งนี้ คือสิ่งที่ประทับใจถ้าให้เหมยเล่าขอเวลาซัก 3 วันน่าจะเล่าหมด (หัวเราะๆ)      และฝากถึงน้อง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีความฝันและลงมือทำในสิ่งที่น้องๆ อยากทำ ทั้งเรื่องการเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย หรือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อยากให้น้องตั้งใจ อดทน และพยายามทำสิ่งที่น้องชอบหรืออยากทำ อาจจะมีอะไรทำให้เราท้อบ้างเหนื่อยบ้าง หรือทำให้เรารู้สึกด้อย แต่อย่าทิ้งความชอบทำมันให้ได้ ต่อให้ไม่สำเร็จ 100% หากสำเร็จแค่ 1% นั้นก็หมายความว่าน้องได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ น้องจะไม่คิดเสียดายเลยค่ะ พี่ทำได้ น้องๆ ก็ทำได้เหมือนกัน สู้ ๆ นะคะ