ในยุคที่เทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์และอินเตอร์เน็ตออฟธิงส์เจริญก้าวหน้า ย่อมก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับนานาชาติ การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตจะสัมพันธ์กับ C.A.S.E เป็นหลัก นั่นคือ C = Connected การเชื่อมโยง, A= Autonomous การเป็นอิสระ, S = Shared & Services การแบ่งปันและการบริการ, และ E = Electronic อิเล็กทรอนิกส์ เรามั่นใจว่าพัฒนาการใน 4 ด้านนี้จะสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้กับห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมของไต้หวัน กำหนดการเดิมของงาน Taipei AMPA, AutoTronics Taipei และ Motorcycle Taiwan ณ วันที่ 15-18 เมษายน 2563 ต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 21-24 ตุลาคม 2563 เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ร่วมงาน ในงานดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นจุดรวมเทรนด์ของการพัฒนาในอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นงานที่ดึงดูดผู้ซื้อต่างชาติกว่า 70,000 รายทั่วทุกมุมโลก

“นายวัลเตอร์ เยห์” ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหารของ TAITRA ให้ความเห็นว่า ไต้หวันมีจุดแข็งในการผลิตซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และมีศักยภาพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งหาประเทศอื่นเทียบได้ยาก การเกิดขึ้นของพาหนะที่ขับเคลื่อนได้เอง, สถานีชาร์จไฟฟ้าอัจฉริยะ, ระบบการจอดอัจฉริยะและระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆในอนาคตจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของไต้หวัน ธีมหลักของการจัดงานครั้งนี้จึงเป็น “การทำให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์” “การติดมอเตอร์” และ “การทำให้เป็นระบบอัจฉริยะ”

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ตามรายงานล่าสุดจากองค์การพลังงานนานาชาติ (IEA) คาดว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 130 ล้านคันในทศวรรษหน้า นอกจากนี้งานวิจัยของศูนย์ความรู้และเศรษฐกิจทางอุตสาหกรรม (IEK) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม (ITRI) ระบุว่าในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า, IoV และระบบคาร์พูล ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะมีมูลค่า 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะเฟื่องฟูอย่างมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ไต้หวันจึงควรใช้ข้อได้เปรียบจากอุตสาหกรรมการสื่อสารของไต้หวันซึ่งมีศักยภาพระดับโลกร่วมกับการมีห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมทั้งระบบเพื่อเข้าสู่ตลาด “สินค้าที่ติดตั้งจากในโรงงาน” ผ่านสินค้านวัตกรรมมูลค่าสูง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ทางเลือกและอุปกรณ์เสริมซึ่งจะพัฒนาขึ้นสู่ตลาดโลก

การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสในปี พ.ศ. 2562 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อการผลิตยานยนต์, อะไหล่ยานยนต์และอุปกรณ์เสริมในระดับโลกอย่างมาก ธุรกิจของไต้หวันสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นซัพพลายเออร์ระหว่างประเทศโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีไลน์การผลิตที่มีคุณภาพและยืดหยุ่นได้ สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจ (MOEA) ได้จัดโปรแกรมสนับสนุนการขับเคลื่อนทางนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอะไหล่ยานยนต์และอุปกรณ์เสริมของไต้หวัน (ซึ่งดำเนินการโดย TAITRA) ซึ่งได้แก่ การจัดบูธของ Taiwan Excellence ในงานแสดงสินค้ายานยนต์ เช่น Automechanika Mexico, Automechanika Frankfurt และ AAPEX นอกจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์และระบบขนส่งอัจฉริยะของบริษัทที่ได้รับรางวัลแล้วบูธของ Taiwan Excellence ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทชั้นนำของไต้หวัน เช่น DEPO, TYC, Eagle Eyes และ Kenda นอกจากนี้ Taiwan Excellence รวบรวมรายงานเชิงลึกในอุตสาหกรรมที่จัดทำโดยสื่อระหว่างประเทศ, เครือข่ายสังคมออนไลน์, และฟอรั่มในอินเตอร์เน็ตเพื่อขยายผลการทำงานของสำนักงานและเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมอะไหล่ยานยนต์และอุปกรณ์เสริมของไต้หวัน

 

รางวัล Taiwan Excellence Awards ก่อตั้งโดยกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA) ในปี พ.ศ. 2536 ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 4 หัวข้อ คือ การวิจัยและพัฒนา, การออกแบบ, คุณภาพและการตลาดที่คัดเลือกโดยรัฐบาล และผลงานที่ได้รับรางวัลนี้เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม สัญลักษณ์นี้ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากกว่า 106 ประเทศ

ทำความรู้จักกับ Taiwan Excellence ได้ที่ : http://bit.ly/37XipEA  หรือผ่านทาง Facebook : https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/