วิธีสร้างเกราะป้องกันเชื้อโรค ที่ทุกคนต้องรู้!

จะทำอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง ปลอดภัย ห่างไกลเชื้อโรคและไม่เจ็บป่วยง่ายๆ? EasyCompare ได้รวบรวมวิธีสร้างเกราะคุ้มภัยให้ห่างไกลจากเชื้อโรคมาให้แล้ว มาดูกันเลย!

ในแต่ละวันเราต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคมากมาย ยิ่งในปัจจุบันมีการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยแล้ว ดังนั้นการดูแลตัวเองในเรื่องของความสะอาดจึงเป็นที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากไม่ระวังตัว หรือดูแลตัวเองให้ดี อาจทำให้เจ็บป่วยได้! แล้วจะทำอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง ปลอดภัย ห่างไกลเชื้อโรคและไม่เจ็บป่วยง่ายๆ?

EasyCompare ได้รวบรวมวิธีสร้างเกราะคุ้มภัย ให้ห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้มาให้แล้ว เริ่มตั้งแต่การดูแลรถยนต์ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการดูแลตัวเองขณะเข้าพักที่โรงแรม รวมถึงสายการบินต่างๆ ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย!

การดูแลทำความสะอาดรถยนต์

  1. นำรถไปตากแดด พร้อมเปิดประตูรถและเอาพรมออกให้หมด ระหว่างที่ตากแดดอาจใช้ไม้ตีให้ฝุ่นผงที่เกาะอยู่กับขนพรมฟุ้งกระจายร่วงลงมาด้วยก็จะยิ่งดี ส่วนของพื้นรถก็ควรตรวจดูบริเวณซอกหลืบขอบประตู หากพบว่ามีเศษดินเศษทรายเปียกติดอยู่ตามซอกให้ใช้แปรงสีฟันเก่าๆ แปรงเอาเศษดินทรายเหล่านั้นออกมา
  2. ทำความสะอาดทั่วไปภายในรถ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ฆ่าเชื้อโรคเช็ดให้ทั่วตามพวงมาลัย คอนโซล แผงประตู หรือแม้แต่เบาะนั่ง เพราะถือเป็นที่อยู่อย่างดีของเชื้อโรค เมื่อทำความสะอาดเสร็จก็นำผ้ามาเช็ดให้แห้ง จากนั้นบำรุงเบาะหนังด้วยครีมบำรุงผิวที่ไม่มีกลิ่มฉุน และสีขาว หรือเบบี้ออยล์เพื่อช่วยดูแลให้เบาะหนังไม่แห้งแข็งและแตก แต่หากครอบครับไหนที่มีเด็กเล็กควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีสารเคมีเจือปนเพื่อลดการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้น
  3. ดูดฝุ่น โดยเฉพาะบริเวณผู้โดยสารตอนหน้าเพราะตรงนั้นจะมีแอร์อยู่ซึ่งเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค รวมทั้งพรมหรือผ้ายางก็ต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ นอกจากเป่าทำความสะอาดแล้วต้องซักบ้างตามระยะเวลาที่เหมาะสม และก่อนขึ้นรถควรตบเท้าเบาๆ เพื่อทิ้งฝุ่นออกก่อนก้าวขึ้นรถ
  4. ล้างตู้แอร์ตามเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันนั้นบ้านเรามีฝุ่นเยอะ ยิ่งครอบครัวที่มีเด็กๆ ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะตู้แอร์เป็นแหล่งเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่าที่คิด เพราะเชื้อโรคส่วนใหญ่นั้นจะเติบโตได้ดีในที่ชื้น ซึ่งที่ชื้นๆ แฉะๆ ในรถก็คือ ตู้แอร์นั่นเอง ดังนั้นทุกๆ 6 เดือนควรเอารถไปอบโอโซนบ้าง เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ
  5. ทำความสะอาดกระโปรงหลัง โดยเปิดฝากระโปรงขึ้นแล้วรื้อพรมปูพื้นออกรวมถึงเอายางอะไหล่ออกจากหลุมเก็บ จากนั้นก็ทำความสะอาดให้แห้งสนิททุกซอกมุม เพราะห้องเก็บของใต้ฝากระโปรงท้ายมักมีความความเปียกชื้น ความสกปรก และมักจะเป็นต้นกำเนิดของสนิมในตัวรถ

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นวิธีเบื้องต้นในการทำความสะอาดรถยนต์ แต่หากพูดถึงรถโดยสารต่างๆ ที่มีผู้คนจำนวนมากใช้บริการอยู่เป็นประจำนั้นอาจต้องเพิ่มขั้นตอนและความถี่ในการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้นด้วยการเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ สำหรับการทำความสะอาดเบาะที่เป็นพลาสติกนั้นสามารถเช็ดด้วยน้ำเปล่าที่ผสมสบู่และเช็ดน้ำเปล่าอีกครั้ง ส่วนกรณีเจอผู้โดยสารที่มีอาการป่วย เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ควรใช้แอลกอฮอล์ 70% ทำความสะอาดเบาะที่นั่ง นอกจากนั้นช่วงกลางวันอาจเปิดประตูหน้าต่างรถไว้เพื่อระบายอากาศและฆ่าเชื้อโรค

แต่สำหรับบางกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ต้องเข้าพักที่โรงแรม หรือเดินทางด้วยสายการบินต่างๆ มีข้อแนะนำดังนี้

  1. ใส่หน้ากากอนามัยและอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
  2. ปฏิบัติตามมาตรการของโรงแรมหรือสายการบินนั้นๆ อย่างเคร่งครัด เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ รวมทั้งใช้เจลล้างมือที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ตามจุดต่างๆ
  3. เลี่ยงใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เช่น ผ้าเช็ดตัว จานข้าว ช้อนส้อม แก้วน้ำ เสื้อคลุม และอื่นๆ
  4. อย่าเอามือที่ไม่สะอาดมาลูบจับบริเวณใบหน้า ตา จมูก หรือปาก
  5. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ตอยู่เสมอ
  6. รับประทานอาหารร้อน ปรุงสุกใหม่ๆ พยายามเลี่ยงของอาหารกึ่งดิบกึ่งสุก