อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK (ASE) งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมด้านพลังงานครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมกับ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (JGSEE) จัดสัมมนาทางออนไลน์ (Webinar) ASE Webinar series #1 ขึ้นในหัวข้อ “ผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ต่อกลุ่มพลังงานในอาเซียน” (Impact of Covid-19 Pandemic on ASEAN Energy Sector) ระดมแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานเพื่อก้าวสู่อนาคตธุรกิจพลังงาน และพลังงานทางเลือกหลังการคลี่คลายของวิกฤตโควิด-19 ทั่วโลก

 

                ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้ตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน แสดงทรรศนะได้อย่างน่าสนใจว่า วิกฤตโควิดในวันนี้ก่อผลกระทบด้านลบในวงกว้าง  ทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบตรงต่อพลังงานทางเลือก แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเดินหน้าสู่การใช้พลังงานยั่งยืน ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ลดลงจึงส่งกระทบต่อพลังงานทางเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คาดการณ์ว่าหลังจากวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายพลังงานทางเลือกจะกลับมายืนหนึ่งอีกครั้ง ดังนั้นในช่วงที่ธุรกิจพลังงานทางเลือกชะลอตัวในช่วงนี้ จึงเป็นช่วงแห่งการเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เป็นชีวิตวิถีใหม่ แน่นอนว่าภาคธุรกิจพลังงานก็ต้องเร่งพัฒนาสู่การใช้ดิจิตอล และนวัตกรรมเทคโนโลยีเช่นกัน

 

                WFH- Work from Home ในวันนี้ เป็นวิถีการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่-New Normal ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานทั่วโลกลดลงเฉลี่ย 25% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งธุรกิจพลังงานเองควรใช้โอกาสนี้ในการปรับตัว เพราะการลดลงของราคาพลังงานจะส่งผลต่อความตื่นตัวต่อการมุ่งสู่พลังงานทางเลือกที่อาจจะทำให้แผนบางอย่างล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามในระยะยาวการพัฒนาพลังงานทางเลือกยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทยและประเทศในอาเซียนต้องเดินหน้าสู่ความยั่งยืน ซึ่งในช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการพัฒนาทรัพยากรต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ถึงการพัฒนาพลังงานทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต” ดร.ทวารัฐกล่าว

 

                ดร.ทวารัฐ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่าทั้งนี้ แม้วิกฤตในครั้งนี้อาจกระทบต่อความต้องการพลังงานทดแทน ดร.ทวารัฐ ยังยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (Alternative Energy Development Plan: AEDP 2018) ในช่วงปี พ.ศ.2561-2580 ซึ่งกำหนดที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน 30% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในปี 2580 แต่อาจต้องมีการปรับแผนบางอย่างให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

                มร. ปีเตอร์ ดู พอนด์Managing Partner บริษัท Asia Clean Energy Partners จำกัด และ Asia Regional Coordinator Private Financing Advisory Network กล่าวเสริมว่า ธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจที่จำเป็น แม้ในช่วงวิกฤตโรคระบาดทั่วโลกจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจและสถานะทางการเงินของหลากหลายธุรกิจ ทำให้มีการปลดแรงงานในธุรกิจพลังงานในสหรัฐไปแล้วกว่า 600,000 ราย และคาดการณ์ว่าจะมีการปลดแรงงานในอุตสาหกรรมพลังงานมากถึง 850,000 ราย ในเดือนกรกฎาคม แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไม่เชื่อว่าธุรกิจนี้จะอยู่ในขาลงอย่างถาวร เพราะเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อทุกอุตสาหกรรม และต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน ฉะนั้นธุรกิจพลังงานต่างๆ ควรพยายามรักษาทรัพยากรบุคคล และเร่งพัฒนาแรงงานเพื่อรอเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ธุรกิจจะได้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

 

                ดังนั้นการพยุงธุรกิจให้อยู่ได้ท่ามกลางภาวะที่ยากลำบากในปัจจุบัน มร. ดู พอนด์ ได้แนะนำภาคธุรกิจให้พยายามบริหารการเงินให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นแผนในการดำเนินธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อประคับประคองให้ธุรกิจอยู่ได้และรักษาหน่วยที่จำเป็นไว้ ซึ่งอาจต้องมีการเจรจากับผู้ลงทุนในปัจจุบัน สื่อสารให้ชัดทั้งภายในและภายนอกองค์กร และมุ่งใช้ช่วงเวลานี้ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และเรียนรู้เทคโนโลยีด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน มองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อรอการฟื้นตัวของธุรกิจ และเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตโรคระบาดคลี่คลาย

 

                “พลังงานคือสิ่งจำเป็น แม้ราคาน้ำมันจะลดลง แต่เมื่อวิกฤตบรรเทา เศรษฐกิจโลกจะฟื้นและจะกลับมาดีอีกครั้งในปีหน้า อุปสรรคต่างๆ จะผ่านพ้นไป ภาคธุรกิจต้องไม่หยุดที่จะเดินหน้าสู่ยุคดิจิตอล และยอมรับการมุ่งสู่การใช้นวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล ซึ่งจะมีโอกาสอีกมากมายที่เปิดกว้างให้กับภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงานได้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” มร. ดู พอนด์ กล่าวทิ้งท้าย

 

                ทั้งนี้จากการที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ได้คลี่คลายลง และ สถานการณ์ต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยความร่วมมือของประชาชนที่มีความพร้อมปรับตัวสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เป็นอย่างดี อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้ประกอบธุรกิจการจัดแสดงสินค้าและกิจกรรมสำหรับเจรจาธุรกิจ ระดับนานาชาติกว่า 550 งานทั่วโลก ได้คำนึงถึงความปลอดภัย และมุ่งแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดสัมมนาเป็นรูปแบบออนไลน์ (Webinar) โดยในครั้งต่อไป จะจัดสัมมนาออนไลน์ ครั้งที่ 2 ภายใต้ซี่รี่ย์ ASE Webinar series #2  ในหัวข้อ “Covid-19 outbreak to impact EV Market in ASIA” มาร่วมแบ่งปันกลยุทธ์การก้าวข้ามวิกฤต ในอนาคตที่มีผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563 เวลา 15.00-17.00 น. โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายกฤษฎา อุตตโมทย์ อุปนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการ กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน (BOI) ทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ  Allen Tom Abraham, Associate BloombergNEF  Mr. Hookyung Lee, CEO EVALL และ Mr. Elden Tu, CEO AMITA Technology Inc. โดยเปิดให้ลงทะเบียนร่วมสัมมนาออนไลน์ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยกิจกรรมสัมมนาออนไลน์นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2020 งานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในอาเซียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาด้านธุรกิจพลังงานทางเลือกสู่อนาคตที่ยั่งยืนที่ครบครันที่สุดในภูมิภาค โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 16 ถึงวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ติดตามได้ทาง Facebook Fanpage : ASEAN Sustainable Energy Week  และเว็บไซต์ http://www.asew-expo.com/