ลดน้ำหนักมันยาก หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพดีกว่า!

เป้าหมายลดน้ำหนักมันยาก! ลองเปลี่ยนเป้าหมายเป็นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพดีกว่า ไม่ต้องเข้าฟิตเนส ไม่ต้องเข้าโรงยิม กระโดดลงสระว่ายน้ำเลยดีกว่า เพราะการว่ายน้ำทำให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจได้ผ่อนคลาย นอกจากช่วยบริหารร่างกาย ลดน้ำหนักได้แล้ว ยังเป็นกิจกรรมสร้างความสนุกสนานได้อีกด้วย 

ดังนั้น เรามาดูประโยชน์ของการว่ายน้ำให้ละเอียดกันดีกว่า เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ตัวเอง หันมาว่ายน้ำเพื่อสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น

1. ว่ายน้ำ ไม่มีเหงื่อ

ปกติออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง กระโดด ปั่นจักรยาน มักมีเหงื่อ แต่ว่ายน้ำจะไม่รู้สึกร้อน หรือไม่รู้สึกว่ามีเหงื่อเลย เพราะน้ำรอบๆ ตัวคุณจะทำให้คุณเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ช่วยบริหารร่างกายได้ทุกสัดส่วน

2. ว่ายน้ำ ช่วยลดน้ำหนัก

การว่ายน้ำ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ถึง 367 แคลอรี่ ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งพอๆ กับการเดินเร็ว การปั่นจักรยาน การวิ่งเหยาะๆ ถ้าหากต้องการลดน้ำหนัก ก็สามารถเพิ่มเวลาในการว่ายน้ำตามความต้องการได้

3. ว่ายน้ำ ช่วยให้นอนหลับสบาย

การได้ว่ายน้ำ มีแนวโน้มทำให้นอนหลับได้ดี กว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลยถึง 2 เท่า เพราะการว่ายน้ำ ทำให้ร่างกายได้ขยับทุกสัดส่วน ให้ความอ่อนเพลียต่อร่างกาย จึงทำให้ร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่

4. ว่ายน้ำ ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง

การว่ายน้ำ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของคุณ เนื่องจากน้ำมีความต้านทานมากกว่าอากาศถึง 44 เท่า ซึ่งหมายความว่า คุณต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเคลื่อนที่ผ่านน้ำ และการว่ายน้ำยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายในราคาแพงอีกด้วย

5. ว่ายน้ำ เสี่ยงบาดเจ็บน้อยสุด

เมื่อคุณว่ายน้ำ คุณจะมีน้ำหนักเพียงร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว เนื่องจากน้ำช่วยในการลอยตัว และยังช่วยลดการเคลื่อนไหว และความตึงของกระดูกข้อต่อ และกล้ามเนื้อลงด้วย การว่ายน้ำจึงมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยกว่า การออกกำลังกายประเภทอื่นๆ

6. ว่ายน้ำ ทำให้อารมณ์ดี

นักว่ายน้ำทั่วไป เมื่อพวกเขาได้ว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นนักว่ายน้ำมือใหม่ หรือนักว่ายน้ำมือสมัครเล่น ก็สามารถรู้สึกดีเหมือนกับนักว่ายน้ำมืออาชีพได้ เนื่องจากการว่ายน้ำ ทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนเซโรโทนิน เกิดความรู้สึกอารมณ์ดี ไม่ค่อยมีความเครียด ความกดดัน ความหดหู่ ความโกรธ และความสับสน

7. ว่ายน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ

อย่างที่บอกไปว่า ว่ายน้ำช่วยบริหารทุกสัดส่วน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อหัวใจ และหลอดเลือด ช่วยให้ร่างกายสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ดังนั้น หากคุณว่ายน้ำเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดสารพัดโรค ได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

8. ว่ายน้ำ ช่วยลดความเครียด เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง

คนส่วนใหญ่ที่ว่ายน้ำ ต่างมีความคิดเห็นว่า การว่ายน้ำช่วยผ่อนคลายจากความเครียด และความกดดัน ร้อยละ 68 มีความคิดเห็นว่า อยู่ในน้ำ แล้วรู้สึกดีต่อตัวเอง และร้อยละ 70 มีความคิดเห็นว่า รู้สึกสดชื่นหลังจากที่ได้ว่ายน้ำ

ดังนั้น การว่ายน้ำ จึงเป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ช่วยเผาผลาญไขมันภายในร่างกายได้ดี ดังนั้น คนที่ต้องการลดน้ำหนัก ไม่ต้องดิ้นรนออกกำลังกายหลายรูปแบบ มากระโดดน้ำเล่น ว่ายน้ำสัก 30 นาที จะช่วยเผาผลาญร่างกายได้ดีมาก

นอกจากนี้ สำหรับคนที่มีความสงสัยว่า ทำทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร จัดตารางการกิน และการดำเนินชีวิตให้อยู่บนความพอดีแล้ว แต่ทำไม น้ำหนักก็ยังไม่ลดสักที เราต้องมาดูจุดบกพร่องเหล่านี้เลย

1. กินแบบเฮลตี้ตลอดเวลา

ทุกคนที่ลดน้ำหนัก ต่างสะกดจิตใจตัวเองตลอดเวลา ย้ำกับตัวเองว่า ต้องกินอาหารเพื่อสุขภาพ กินอะไรก็ได้ที่ “เบาๆ” เท่านั้น แล้วสมองจะหลั่งฮอร์โมน Ghrelin ซึ่งทําหน้าที่กระตุ้นความอยากอาหารให้มากขึ้น แถมยังส่งสัญญาณให้เมตาโบลิซึม (กระบวนการสร้างและสลาย) ทํางานน้อยลงด้วย หากอยากทําให้ฮอร์โมนดังกล่าวสมดุล สมมติว่า กินเชฟสลัด ก็เพียงแค่ ให้ความสนใจไปที่ถั่ว และชีส แทนที่จะจดจ่ออยู่แต่กับผักสลัดเท่านั้น

2. หมกมุ่นอยู่กับการออกกำลังกาย

ออกกำลังกายอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงเร็วได้หรอก คิดแต่ว่า จะออกกําลังกาย ก็ทําให้เรากินเพิ่มขึ้นถึง 50% นั่นเพราะ เราสามารถกินอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด ดังนั้น ออกกำลังกายแล้ว ต้องควบคุมอาหาร เลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์ มากกว่ากินแบบเดิมๆ แต่ลดปริมาณ และที่สำคัญ ควรพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ

3. อยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน

การนั่งทำงาน หรือนั่งทำอะไรก็ตามแต่ อยู่ที่เดิมนานๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมง ทําให้ร่างกายชะลอการผลิต Lipase หรือเอนไซม์ซึ่งมีหน้าที่ย่อยไขมัน และวิตามินชนิดละลายในไขมัน ดังนั้น ควรลุกเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง จะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 13% หรือถ้าจําเป็นต้อง “นั่งนานๆ” การยกขาขึ้นลง และใช้เท้าเต้นระบำก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 54% เลยทีเดียว

4. นอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ

นอนน้อย ก็ทําให้อ้วนได้นะ เพราะฉะนั้น การนอนหลับพักผ่อนไม่ถึง 8 ชั่วโมง วันรุ่งขึ้นเราจะกินอาหารเพิ่มขึ้นถึง 300 แคลอรี่ และไขมันเพิ่มขึ้นอีก 21 กรัม ทั้งนี้ หากตื่นก่อนนาฬิกาปลุก คุณสามารถนอนน้อยกว่าคนอื่นได้ แต่ถ้าสะดุ้งตื่น เพราะเสียงนาฬิกา แปลว่าร่างกายต้องการการนอนหลับอย่างน้อย 8-9 ชั่วโมง

การลดน้ำหนักให้เห็นผล ต้องมีหลายๆ องค์ประกอบเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่มุ่งไปที่ใดที่หนึ่ง จนละเลยการดูแลตัวเองอย่างครอบคลุม หากคุณตีโจทย์การลดน้ำหนักได้ คุณก็จะกลายเป็นผู้ชนะ สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่เหนื่อยระยะยาว ไม่เสียเวลานานด้วย

อยากลดน้ำหนัก ไม่มีเวลาก็ลดได้นะรู้ยัง!!!

รูปร่างที่ดี ไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส!

โปรตีน สารอาหารจำเป็น ที่ร่างกายต้องทุกวัน!