หากพูดถึงโปรแกรมการจัดฟันที่น่าสนใจของปี 2022 นี้ คงต้องยกให้การจัดฟันแบบใส Invisalign ติดอันดับต้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะกำลังเป็นที่นิยมไม่ว่าจะเป็นในหมู่ดารานักแสดง เหล่าอินฟลูเอเซอร์ หรือแม้แต่นักธุรกิจ Invisalign เป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากอเมริกาที่ช่วยรักษาการเรียงตัวของฟัน แก้ปัญหาการสบฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาที่สั้นกว่าการรักษาแบบดั้งเดิม บทความนี้ได้รวบรวม 5 ข้อดีของการจัดฟันแบบใส ว่าทำไมดาราถึงนิยมทำกัน
3 เทคโนโลยีสุดล้ำ
อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนต้นว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign มีการประยุกต์ใช้เทคนิคที่ทันสมัย ถูกออกแบบโดยผสาน 3 เทคโนโลยีหลักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่าง
SmartTrack ตัววัสดุผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะ หรือแตกหักง่าย ส่งเสริมแรงกระทำอย่างสม่ำเสมอที่มีผลต่อการเคลื่อนตัวของฟัน
SmartForce ฟีเจอร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระทำต่อฟัน แรงกัดหรือบดเคี้ยวต่างๆ ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามแผนการรักษา
SmartStaging โปรแกรมวางแผนการรักษาที่ช่วยให้ทันตแพทย์จัดฟันสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเฟสการรักษา เพื่อเป้าหมายเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแต่ละบุคคล
คงภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ
หลายคนอาจมีความคิดที่ต้องการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาด้านทันตกรรม แต่ด้วยอาชีพการงานอย่างดารานักแสดง แอร์โฮสเตส นักธุรกิจ หรือเหตุผลส่วนตัวที่ต้องกังวลเรื่องภาพลักษณ์จึงทำให้ล้มเลิกความตั้งใจไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การจัดฟันแบบใสสามารถรักษาฟันโดยอำพรางการมองเห็นอุปกรณ์ คนไข้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องภาพลักษณ์ที่อาจเป็นอุปสรรคในการทำงาน
ใช้ชีวิตได้ไม่มีสะดุด
ไม่เพียงมอบความมั่นใจด้านบุคลิกภาพระหว่างการรักษา การจัดฟันแบบใสยังช่วยให้ผู้ป่วยมีอิสระในการใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร ซึ่งหากเป็นการรักษาแบบดั้งเดิม ผู้ป่วยจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารอ่อน นิ่ม เคี้ยวง่าย ที่จะไม่สร้างความเสียหายให้อุปกรณ์ระหว่างการรักษา แต่การจัดฟันแบบใสสามารถถอดเครื่องมือเข้า-ออกได้ง่ายระหว่างรับประทานอาหาร รวมทั้งทำความสะอาดฟันหลังมื้ออาหารได้อย่างทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้นการจัดฟันแบบใสยังช่วยลดปัญหาการพูดออกเสียงไม่ชัดที่เป็นอีกหนึ่งความกังวลของการจัดฟันแบบดั้งเดิม
วางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ
ด้วยโปรแกรมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ออกแบบการรักษาตามพื้นฐานโครงสร้างเฉพาะแต่ละบุคคลร่วมกับความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์จัดฟันใสทำให้สามารถวางแผนทิศทางการเคลื่อนตัวของฟัน การเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา จำนวนชิ้นงานอุปกรณ์ที่ใช้ ค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา รวมถึงคาดการณ์ผลที่คาดว่าจะได้รับได้อย่างแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ประจำทุกเดือน ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนชิ้นงานได้ด้วยตนเองที่บ้านตามรอบที่กำหนด
ระยะเวลาการรักษาน้อยกว่า
โดยทั่วไปแล้วการจัดฟันแบบดั้งเดิมต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่งถึง 3 ปีเพื่อแก้ไขความผิดปกติของโครงสร้าง แต่การจัดฟันแบบใสที่โดดเด่นในเรื่องตัวช่วยด้านเทคโนโลยีได้เข้ามาเติมเต็มช่องโหว่ปัญหาของการรักษาแบบเก่า ด้วยระยะเวลาเพียง 1-2 ปี ใครๆก็สามารถเผยรอยยิ้มสดใสได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เคยจัดฟันมาแล้ว หรือมีปัญหาด้านทันตกรรมที่ไม่ซับซ้อนอาจใช้เวลารักษาเพียง 3-6 เดือน เพื่อแก้ไขเฉพาะฟันซี่ที่มีปัญหาเท่านั้น
สรุป
การจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการรักษาด้านการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน ฟันซ้อนฟันเกได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยยังคงภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ ใช้ระยะเวลาในการรักษา พบแพทย์น้อยกว่า และยังสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างอิสระเป็นปกติ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign ราคาค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรักษาแบบอื่น แต่หากเทียบกับความสะดวกสบายและข้อจำกัดที่น้อยกว่าถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า